เกร็ดน่ารู้ก่อนดู Avatar หลังจากรอคอยมา 13 ปี ในที่สุด Avatar: The Way of Water ก็เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว อย่างไรก็ตาม ภาคแรกและภาคสองถูกแยกออกจากกันนานกว่าสิบปี เราจะมาทบทวนความทรงจำ และความยิ่งใหญ่ของ Avatar ภาคแรกกันอีกครั้ง ดังนั้น เมื่อคุณเข้าโรงเพื่อชมภาค 2 คุณจะสามารถร่วมสนุกดูหนังได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
อวตารเป็นสิ่งที่ผู้เขียนติดใจและประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้ และคอยนับดาราทุกวันทุกคืนว่าเมื่อไหร่จะได้ดูภาคต่อ เพราะกระแสบอกว่าเป็นหนังไตรภาค แต่ถ้าภาค 2 ไม่ดีเท่าภาคแรก เราก็ดูภาค 2 ได้ แต่ไม่ว่าจะยังไง ก็ยังดีที่ชีวิตนี้เราจะได้ดูหนัง และในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดลง เพราะวันนี้ ( 14 ธันวาคม 2565 ) Avatar 2 เข้าฉายแล้วทุกโรงภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นวันแรกของแนวโน้ม ดังนั้นอาจจะยังไม่บูมมากนัก เราเห็นหน้าจอแบบนี้เมื่อ 13 ปีที่แล้ว ดังนั้นใคร ๆ อาจคิดว่าเทคโนโลยีนี้มีมานานหลายทศวรรษแล้ว ใครจะคาดหวังมากขึ้นจากอดีต
เกร็ดน่ารู้ก่อนดู Avatar ยิ่งรู้ ยิ่งต้องไปดู
- เกร็ดน่ารู้ก่อนดู Avatar เจมส์ คาเมรอน ยังคงเป็นผู้กำกับ ผู้เขียนบท และผู้อำนวยการสร้าง เขากล่าวว่าแม้ว่าจะใช้เวลา 13 ปีในการสร้างภาคที่สองของ ” Avatar: The Way of Water ” แต่ความจริงแล้วแฟรนไชส์ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เขามีแผนสำหรับภาพยนตร์ Avatar 5 เรื่อง
- ก่อนที่ Avatar: The Last Airbender จะออกมา มีความกังขา พร้อมกับเสียงวิจารณ์ว่าจะไม่สร้างปรากฏการณ์เหมือนภาคแรกเพราะใช้เวลานานเกินไปกว่าที่คนจะจำชื่อตัวละครหรือจำรายละเอียดในหนังไม่ได้ แต่เจมส์ คาเมรอนก็ตอบคนเหล่านี้ว่ารอ หนังที่จะออกฉายก่อน จากนั้นคนเหล่านั้นจะปิดตัวเอง
- Avatar ภาคแรกทำรายได้เกือบ 3 พันล้านเหรียญทั่วโลกและยังคงเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลจนถึงทุกวันนี้ ด้วยรายได้รวม 2.922 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Avengers: Endgame ด้วยรายได้ 2.797 ล้านดอลลาร์ และ Titanic (นำแสดงโดยเจมส์ คาเมรอน) ด้วยรายได้ 2.201 ล้านดอลลาร์
- อวาตาร์ตัวแรกสามารถดูได้ในรายการดิสนีย์ พลัส ฮอตสตาร์ ไทยแลนด์ ( Disney+ Hotstar Thailand )
- Avatar เป็นเรื่องราวของ Navis บนดาว Pandora ที่มนุษย์ยึดครอง ซึ่งพวกเขาเรียกผู้คนจากฟากฟ้าเพื่อค้นหาทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ ronal
- นาวิกโยธินสูง 10 ฟุต ผิวสีฟ้า เคารพและนับถือธรรมชาติอันสูงส่งและหยั่งไม่ถึง อิกราน อวตาร
- “อวตาร” คือร่างที่สร้างขึ้นจากการผสม DNA ของ Nawi กับ DNA ของมนุษย์ ต้องมี DNA ที่สามารถใช้ Avatar ได้ เพราะสมองต้องเชื่อมต่อกัน แต่ในภาคแรก “เจค ซัลลี” ถูกบังคับให้เปลี่ยนร่างเป็นพี่ชายที่ตายไป เนื่องจากเป็นฝาแฝดกัน จีโนมจึงเหมือนกัน เขาสามารถใช้อวาตาร์ของพี่ชายได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ
- Pandora อยู่ห่างจากโลก 4.37 ล้านปีแสง และใช้เวลาประมาณ 6 ปีจึงจะไปถึง มีนักเดินเรือพื้นเมืองมากมายที่มีภูเขาและแม่น้ำที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น สัตว์ พืช และต้นไม้ที่สดใส ต้นไม้วิญญาณ ฮาเลลูยา (ภูเขาลอยน้ำ), อิกราน (เหมือนไดโนเสาร์มีปีก), โทรุค ฮาฟวา (วิญญาณแห่งป่า) ฯลฯ
ยิ่งรู้ ยิ่งต้องไปดู Avatar หนังฟอร์มยักษ์ระดับโลก
- เนื้อหาของ “อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ” ดำเนินต่อจากภาคแรก นั่นคือ หลังจากที่ “ เจค ซัลลี ” ได้กลายมาเป็นชาวนาวีเต็มตัว และแต่งงานกับ “ เนย์ทีรี ” ลูกสาวของหัวหน้าเผ่าโอมาติกายา ซึ่งเป็นชาวนาวีเผ่าที่อาศัยอยู่ในป่า พวกเขาสร้างครอบครัวที่อบอุ่น มีสมาชิกอุ่นหนาฝาคั่งถึง 7 คน
- เจมส์ คาเมรอน บอกว่าธีมหลักของ Avatar: The Way of Water คือ “ครอบครัว” ดังนั้น สมาชิกในครอบครัว “ซัลลี” ทุกคนจึงมีความสำคัญต่อเนื้อเรื่องหมด พวกเขาทั้ง 7 คน ประกอบด้วย เจค, เนย์ทีรี, ลูกที่ให้กำเนิดมาเอง 3 คน (เนเทยัม, โลอัค, ทูค) และลูกเลี้ยง 2 คน (คิริ, สไปเดอร์)
- เกรซ ออกุสตีน (ซิกอร์นีย์ วีเวอร์) เป็นตัวละครสำคัญของทั้งภาคแรกและภาคสอง เธอเป็นผู้คิดค้นร่างอวตารขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์ที่ดี นั่นคือ เพื่อทำความเข้าใจชนเผ่านาวี ตลอดจนศึกษาธรรมชาติบนดาวแพนดอราเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งขัดแย้งกับความต้องการของ “ผู้พันไมล์ส” หัวหน้ากองกำลังรักษาความปลอดภัยของมนุษย์บนดาวแพนดอรา ตอนท้ายภาคแรก ดร.เกรซ เสียชีวิต จิตวิญญาณของเธอได้ไปรวมเข้ากับ เอวา จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของดาว Pandora ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องมายังภาค 2
- มนุษย์โลก ซึ่งเป็นตัวร้ายของเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ในการรุกรานดาวแพนดอราที่เลวร้ายกว่าเดิม โดยภาคแรกนั้นพวกเขาต้องการแร่อ็อบเทเนียมที่มีมูลค่ามหาศาลถึงกิโลกรัมละ 20 ล้านเหรียญ แต่ใน Avatar: The Way of Water พวกเขาต้องการยึดครองดาวแพนดอราทั้งดวงมาเป็นที่อยู่อาศัย แทนโลกที่กำลังจะล่มสลาย ดังนั้น จึงทุ่มเทสรรพกำลังมาสู้กับชาวนาวีอย่างหนักหน่วงกว่าเดิม
- ภาคนี้ยังคงได้ แซม เวิร์ธธิงตัน มารับบท เจค ซัลลี, โซอี ซัลดานา มารับบท เนย์ทีรี เหมือนเดิม ร่วมด้วย ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ ที่ในภาคนี้จะกลับมาเกิดใหม่เป็นเด็กสาวชื่อ “คิริ” ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเจคและเนย์ทีรี, สตีเฟน แลง กลับมารับบทผู้พันไมล์สเหมือนเดิม อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ คิริ
- ผู้พันไมล์ส ตัวร้ายของแฟรนไชส์หนัง Avatar ในภาคแรก เขาเป็นหัวหน้ากองกำลังรักษาความปลอดภัยของ RDA (หน่วยงานที่ถูกส่งมาบริหารจัดการทรัพยากรบนดาวแพนดอรา) เป็นคนที่ไม่มีความเมตตาใดๆ ให้กับชาวนาวี และพร้อมที่จะสังหารอย่างโหดเหี้ยม ในภาคแรกเขาต่อสู้กับ เจค&เนย์ทิรี จนตัวตาย ส่วนในภาค 2 นี้เขาจะกลับมาในรูปลักษณ์ใหม่ที่ต้องไปดูกันเอาเองในโรง
- Avatar: The Way of Water เป็นการกลับมาพบกันอีกครั้งของ “เคท วินสเลต” กับ “ เจมส์ คาเมรอน ” ที่เคยร่วมงานกันครั้งแรกใน Titanic เมื่อปี 1997 โดยใน “อวตาร วิถีแห่งสายน้ำ” นี้ เคทจะมารับบท โรนัล (Ronal) ภรรยาหัวหน้าเผ่า Metkayina หรือชาวนาวีเผ่าที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรซึ่งเพิ่งปรากฏตัวในภาคนี้เป็นครั้งแรก
Avatar: The Way Of Water สมกับที่รอคอยมาสิบกว่าปี เหมือนเทพเจ้ามาสร้างหนังให้ดู
เกร็ดน่ารู้ก่อนดู Avatar ก่อนอื่นต้องขอคารวะลอร์ด เจมส์ คาเมรอน ความรู้สึกที่ได้ดูภาพยนตร์ที่ยาวมาก ยาว 3 ชั่วโมง และสนุกสนาน ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกว่ามันคือไททานิค อีกครั้ง Avatar: The Way of Water คาเมรอนทำ ทำของวิเศษราวกับไม่ใช่มือมนุษย์ รวมถึงภาพที่สวยจนแทบหยุดหายใจ ทำให้รู้สึกว่า Perfect เกินกว่าที่หนังดีๆจะทำได้ Perfect!!!
ฉันไม่อยากพูดมากเกี่ยวกับ Avatar 2 เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอีกกว่าสิบปีหลังจากภาคแรก Jake Sully และ Natiri มาสร้างครอบครัวด้วยกันบน Pandora เพื่อมีลูกที่มีความสุข แต่ดูเหมือนว่าความสุขจะอยู่ได้นานกว่าทศวรรษเท่านั้น ต้องถูกยึดครองอีกครั้งโดยชาติต่าง ๆ ในโลก นำโดยวายร้ายที่ขอไม่ให้บอกว่าเขาเป็นใคร แต่ความคิดของคาเมรอนก็เจ๋งพอๆ กับร่างอวตาร ครอบครัว Sully ต้องหลบหนีไปยังดินแดนที่มีก้นทะเลเป็นแม่น้ำ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งใหม่ของตระกูล Sully (ขอไม่ลงรายละเอียดมากไปดูเอาเอง) เจค ซัลลี
